ภาษาอินเทอร์เน็ตกับช่องว่างระหว่างวัยในผู้สูงอายุ
การถือกำเนิดของอินเทอร์เน็ตได้พลิกโฉมรูปแบบการสื่อสารในปัจจุบัน ให้เป็นการสื่อสารที่มีลักษณะเฉพาะและแยกแยะได้ตามกลุ่มอายุ ซึ่งเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนในแต่ละช่วงวัย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องเผชิญกับโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยคำศัพท์และสำนวนใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นเคย จนอาจนำไปสู่ความรู้สึกแปลกแยก ช่องว่างระหว่างวัยในภาษาของอินเทอร์เน็ตนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างในการเลือกใช้ภาษา และชี้ให้เห็นถึงผลกระทบทางสังคมและจิตวิทยาที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผู้สูงอายุหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้เติบโตมาพร้อมกับการใช้อินเทอร์เน็ต ต้องเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวให้เข้ากับคลังคำศัพท์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้สูงอายุจำนวนมากประสบกับอุปสรรคในการใช้งานอินเทอร์เน็ต อันเนื่องมาจากการขาดความรู้ความเข้าใจและทัศนคติเชิงลบต่อเทคโนโลยี ปัจจัยเหล่านี้ขัดขวางความสามารถของผู้สูงอายุในการมีส่วนร่วมกับรูปแบบการสื่อสารออนไลน์ในยุคปัจจุบัน1,2 อุปสรรคดังกล่าวยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีความต้องการและความชอบในรูปแบบการสื่อสารที่แตกต่างจากคนวัยอื่น ส่งผลให้พวกเขารู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อเผชิญกับสแลงหรือศัพท์เฉพาะกลุ่มในโลกออนไลน์ที่ไม่คุ้นเคย3 ผลกระทบของภาษาอินเทอร์เน็ตต่อสุขภาพจิตของผู้สูงอายุเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในการศึกษาวิจัยในปัจจุบัน งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าการใช้อินเทอร์เน็ตมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลลัพธ์ด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการถูกสังคมทอดทิ้ง3,4 อย่างไรก็ตาม ความไม่คุ้นเคยกับสแลงบนโลกออนไลน์อาจทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกแปลกแยกและเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่ต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยว ความท้าทายสำหรับนักวิจัยและผู้กำหนดนโยบายอยู่ที่การลดช่องว่างนี้ เนื่องจากผู้สูงอายุอาจได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมในโลกดิจิทัล อย่างไรก็ตาม พวกเขามักขาดความรู้ความเข้าใจและทักษะทางภาษาที่จำเป็นในการเข้าร่วมการสนทนาออนไลน์อย่างเต็มที่ วิวัฒนาการของคำสแลงในอินเทอร์เน็ตมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับแนวโน้มทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นใหม่และพลวัตของวัฒนธรรมในหมู่วัยรุ่น คำและวลีที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ เช่น “lit” “fam” หรือ “ghosting” อาจไม่เพียงแค่ไม่คุ้นเคยสำหรับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังยากต่อการทำความเข้าใจอีกด้วย5 ช่องว่างทางภาษานี้จึงอาจนำไปสู่ความรู้สึกแปลกแยก เนื่องจากผู้สูงอายุอาจรู้สึกว่าถูกกีดกันจากการสนทนาที่ใช้สำนวนร่วมสมัยเป็นหลัก นอกจากนี้ การเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของคำสแลงใหม่ ๆ ในปริมาณมาก ยังอาจทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกหนักใจและไม่เต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในการสนทนาและกิจกรรมออนไลน์6 นอกจากนี้ ช่องว่างระหว่างวัยในภาษาอินเทอร์เน็ตอาจก่อให้เกิดปัญหาการสื่อสารที่ผิดพลาดและความเข้าใจผิดได้ ผู้สูงอายุอาจตีความคำสแลงและศัพท์เฉพาะต่าง ๆ ไปจากความหมายที่ตั้งใจไว้ ซึ่งอาจนำไปสู่ความสับสนและความคับข้องใจ7 ความคลาดเคลื่อนเช่นนี้อาจขัดขวางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในบริบทที่ต้องการความชัดเจน เช่น การสนทนาเกี่ยวกับสุขภาพหรือการปฏิสัมพันธ์ในครอบครัว […]
ภาษาอินเทอร์เน็ตกับช่องว่างระหว่างวัยในผู้สูงอายุ Read More »